สรุปประเด็นสำคัญในโครงการ “สัมมนาวิชาการ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๖”
ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เวลา ๐๘.๐๐-๑๖.๓๐ น.
ณ ห้อง N ๒๐๙ ชั้น ๒ อาคาร ผศ.นพรัตน์ ผลาพิบูลย์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
๑.การประกันคุณภาพการศึกษา
๑.๑ การประกันคุณภาพการศึกษาแบ่งออกเป็น
๑) ประกันคุณภาพการศึกษาภายใน โดยสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา ประกอบด้วย ๙ องค์ประกอบ ๒๓ ตัวบ่งชี้
๒) ประกันคุณภาพการศึกษาภายนอก โดยสำนักรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา มุ่งเน้นการประเมินผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบ ประกอบด้วย ๓ กลุ่มตัวบ่งชี้ คือกลุ่มตัวบ่งชี้พื้นฐาน กลุ่มตัวบ่งชี้อัตลักษณ์ และกลุ่มตัวบ่งชี้มาตรการส่งเสริม รวม๑๘ ตัวบ่งชี้
อัตลักษณ์ มหาวิทยาลัยบูรพา คือ บัณฑิตรักสุขภาพ
เอกลักษณ์ หมายถึง ความสำเร็จตามจุดเน้นและจุดเด่นที่สะท้อนให้เห็นเป็นลักษณะโดดเด่นเป็นหนึ่งของสถานศึกษา
เอกลักษณ์มหาวิทยาลัยบูรพา คือ เป็นแหล่งเรียนรู้ศาสตร์ทางทะเลของประชาคมอาเซียน
เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ตามมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) สำนักงานรับรองมาตรฐานและการประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) และสภาการพยาบาล
๑.๒ การเตรียมเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษา ประเด็นสำคัญได้แก่
๑) อาจารย์ทุกคนควรจะมีภาระหลักให้ครบทั้ง ๔ ภาระกิจหลัก
๒) แผนการสอนต้องมีครบทุกวิชา ทุกหัวข้อ
๓) การบรรลุวัตถุประสงค์ผลการเรียนรู้ เรื่องคุณธรรมจริยธรรม เกี่ยวกับการตรงต่อเวลาของนิสิต งานฝ่ายพัฒนานิสิต จะนำไปดำเนินการเขียนโครงการพัฒนาความตรงต่อเวลาของนิสิต
๒. การดำเนินงาน หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๕๔ ฝ่ายวิชาการได้ดำเนินการดังนี้
๒.๑ ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงานทั้งหมด ๒๑ เป็นตัวบ่งชี้ได้ดำเนินการไปตามเวลาที่กำหนด
๒.๒ มีการกำหนดรายวิชาที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสอน อย่างน้อยร้อยละ ๑๐
๒.๓ ตารางทวนสอบรายวิชาพยาบาล หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต โดยวิชาที่ต้องทวนสอบในปีการศึกษา ๒๕๕๖ มีรายละเอียดดังนี้ ปีการศึกษา ฤดูร้อน /๒๕๕๖ คือ รายวิชา ๑๐๗๓๑๕ ปฏิบัติการพยาบาลพื้นฐาน ปีการศึกษา ๑//๒๕๕๖ คือ รายวิชา ๑๐๑๒๐๑ การพยาบาลชุมชน ๑ รายวิชา ๑๐๗๒๐๙ พยาธิสรีรสำหรับการพยาบาล รายวิชา ๑๐๕๓๐๑ การพยาบาลผู้สูงอายุ รายวิชา ๑๐๖๓๐๒ การพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช๒ ปีการศึกษา ๒/ ๒๕๕๖ คือ รายวิชา ๑๐๔๓๐๑ การวิจัยและสารสนเทศทางการพยาบาล รายวิชา ๑๐๗๒๑๔ การพยาบาลพื้นฐาน ๒ รายวิชา ๑๐๕๓๐๒ ปฏิบัติการพยาบาลผู้สูงอายุ รายวิชา ๑๐๒๓๐๓ ปฏิบัติการพยาบาลมารดา-ทารกและการผดุงครรภ์๑
๒.๔ อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร และอาจารย์ประจำหลักสูตร บางคนลาออกและเกษียณอายุราชการ และ ลาศึกษาต่อปริญญาเอก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหาอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรเพิ่มเติม
๒.๕ ฝ่ายวิชาการอยู่ระหว่างการติดตาม รายงานผลการดำเนินของรายวิชา ตามแบบมคอ.๕ และ มคอ. ๖ ในภาคการศึกษา ๒ / ๒๕๕๔ ภาคการศึกษา ๑/ ๒๕๕๕ และ ภาคการศึกษา ๒/๒๕๕๕
๒.๖ การจัดทำรายงานผลการดำเนินการของหลักสูตร ตามแบบ มคอ.๗ ของนิสิตรหัส ๕๔ ได้จัดทำเรียบร้อยแล้วของปี ๒๕๕๔ และอยู่ระหว่างการจัดทำ มคอ ๗ ของนิสิตรหัส ๕๔ และรหัส ๕๕ ของปีการศึกษา ๒๕๕๕
๒.๗ การทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ - ในปีการศึกษา ๒๕๕๔ ฝ่ายวิชาการได้ทำการทวนสอบวิชา ๑๐๗๒๐๑ การสร้างเสริมสุขภาพแบบองค์รวม และ ๑๐๗๑๐๙ แนวคิดพื้นฐานทางการพยาบาล -ในปีการศึกษา ๑/ ๒๕๕๕ ได้ทำการทวนสอบวิชา ๑๐๗๒๐๑ ทฤษฏีทางการพยาบาล และ๑๐๖๒๐๑ การพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช
๒.๘. ข้อเสนอแนะอื่นๆ จากที่ประชุม
๑ ) เรื่องการเปิดภาคเรียนในปีการศึกษา ๒๕๕๗ ตามอาเซียน ซึ่งจะเปิดในเดือนสิงหาคมให้ฝ่ายวิชาการไปประสานงานกับฝ่ายวิชาการของมหาวิทยาลัย เพื่อสรุปวันที่เปิดเรียนที่ชัดเจน
๒) การจัดการเรียนการสอนเรื่องของความหลากหลายทางวัฒนธรรม ให้แต่ละรายวิชาที่กำหนดไว้ควรกำหนดกิจกรรมให้เห็นชัดเจน
๓) การจัดการเรียนการสอนในเรื่อง กระบวนการวิจัยหรืองานสร้างสรรค์ในรายวิชาต่างๆ นั้นมีข้อเสนอแนะดังนี้
- ในรายวิชาที่ขึ้นฝึกปฏิบัติให้นิสิตฝึกหัด ตั้งโจทย์สมมติฐานการวิจัย
- กระตุ้นให้นิสิตคิดด้วยกระบวนการวิจัยและต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน
- เสนอแนะให้แต่ละชั้นปี มีขั้นตอนการศึกษาค้นคว้ากระบวนการวิจัยที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนมาก โดยอาจจะให้นิสิตทำงานเป็นงานกลุ่ม
๕) การสำเร็จการศึกษาของนิสิต ถ้านิสิต ได้เกรดในรายวิชาชีพ ต่ำกว่า C จะไม่สามารถจบการศึกษาของมหาวิทยาลัยตามหลักสูตร ถ้านิสิตได้เกรดต่ำกว่า C นิสิตต้องลงทะเบียนเรียนใหม่
๖) การจัดการเรียนการสอนในรายวิชาที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสอนอย่างน้อยร้อยละ 10เสนอแนะให้มีการจัดตั้งกลุ่มคณะกรรมการทำงาน เพื่อหาข้อสรุปในการจัดการเรียนการสอน และการพัฒนาอาจารย์ผู้สอน
๓. การจัดระบบอาจารย์ที่ปรึกษาและผลการดำเนินงาน -
๓.๑ การจัดอาจารย์ที่ปรึกษา ในปัจจุบันคณะฯ ได้จัดให้อาจารย์ รับผิดชอบดูแลนิสิตชั้นปีเดียวกัน ประมาณ๑๒-๒๐ คน ต่อ อาจารย์ ๑ คน ควรมีการจัดกลุ่มนิสิตคละกัน เพื่อให้มีความหลากหลาย และอาจารย์สามารถทราบข้อมูลนิสิตด้วยระบบฐานข้อมูลของคณะฯ และของมหาวิทยาลัย ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับอาจารย์ที่ปรึกษามีดังต่อไปนี้
๑) มีหน้าที่ดูแลเรื่องการลงทะเบียนของนิสิต
๒) ควรจัดเวลาให้กับนิสิตที่ปรึกษา โดยใช้วันพฤหัสบดี ช่วงบ่ายซึ่งเป็นช่วงเวลาว่างของนิสิต
๓) ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่นิสิต ในกรณีเรื่องการเรียนให้ประสานงานกับรองคณบดีฝ่ายวิชาการ และในกรณีปัญหาการพฤติกรรมและอื่นๆให้ประสานงานกับรองคณบดีฝ่ายพัฒนานิสิต
๔) การประเมินอาจารย์ที่ปรึกษาโดยนิสิต ให้จัดมีการประเมินปีละ 1 ครั้ง เพื่ออาจารย์ที่ปรึกษาจะได้รับข้อมูลการให้คำปรึกษา เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาต่อไป และให้นำไปประเมินในระบบมหาวิทยาลัยทางอินเตอร์เน็ต
๕) ข้อเสนอแนะอื่นๆ จากที่ประชุม
- การใช้ฐานข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลของนิสิต ควรมีความแตกต่างกันระหว่าง ระหว่างอาจารย์ที่ปรึกษา และอาจารย์ทั่วไป
- การจัดระบบอาจารย์ที่ปรึกษา ควรเป็นนิสิตชั้นปีเดียวกัน เพราะนิสิตมีระบบการเรียนที่เหมือนกัน และทำให้สามารถดูแลนิสิตได้อย่างทั่วถึง
- การคิดอัตราส่วนของอาจารย์ที่ปรึกษา ควรนำมาจัดแบ่งสัดส่วนอาจารย์ที่ปรึกษามีความเหมาะสม ทั้งอาจารย์ที่สอนปริญญาตรี โท และเอก
- ในกรณีที่นิสิตมีปัญหา เกินกว่าความสามารถของอาจารย์ที่ปรึกษา คณะฯ ควรมีการการแต่งตั้งคณะกรรมการที่มีความสามารถ ประกอบด้วย ตัวแทนของกลุ่มอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญในปัญหานั้นๆของนิสิต รองคณบดีฝ่ายวิชาการ รองคณบดีฝ่ายพัฒนานิสิต และให้คณบดี เป็นประธาน
๔. การทวนสอบและการบริหารจัดการระบบข้อมูลภายหลังทวนสอบ
๔.๑ การทวนสอบรายวิชา ๑๐๗๒๑๐ ทฤษฎีทางการพยาบาล (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภาวนากีรติยุตวงศ์) อาจารย์ผู้สอนมีการดำเนินการดังนี้
๑) การวางแผนก่อนการจัดการเรียนการสอน โดยมีการประชุมอาจารย์ผู้สอนร่วมกัน เพื่อให้มีความเข้าใจตรงกัน เกี่ยวกับเรื่องวัตถุประสงค์ คำอธิบายรายวิชา และผลการเรียนรู้
๒) เขียนวัตถุประสงค์ของวิชาให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ของรายวิชา
๓) กำหนดกิจกรรมการเรียนการสอน ตามมาตรฐานการเรียนรู้
๔) ออกแบบแบบประเมินผลการเรียนรู้ โดยให้ครอบคลุมตามมาตรฐานการเรียนรู้
๔.๒ การทวนสอบรายวิชา ๑๐๖๒๐๑ การพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช ๑ ( อาจารย์นุชนาถ แก้วมาตร) อาจารย์ผู้สอนมีการดำเนินการดังนี้
๑ ) ประชุมอาจารย์ผู้รับผิดชอบวิชา ชี้แจงการจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องของรายวิชา
๒) กำหนดผู้สอนในหัวข้อของวิชา โดยเฉพาะผู้สอนเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษร้อยละ ๑๐
๓) เตรียมเอกสารที่สำคัญตั้งแต่เริ่มสอน เช่น มคอ.๓ เขียนกิจกรรมและวัตถุประสงค์ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้
๔) เก็บรายงานและผลงานของนิสิตทุกคน เนื่องจากเพื่อป้องกันความลำเอียงจากการตรวจสอบ ผลการเรียนของนิสิต ประเด็นปัญหา เก็บงานปริมาณมากเกิน ทำให้เป็นภาระสำหรับอาจารย์
ข้อเสนอแนะจากที่ประชุม
๑. ให้เก็บงานทุกชิ้นของนิสิตไว้ร้อยละ ๕ ตามที่สุ่มได้ตั้งแต่ต้น ถ้าต้องการคืนงานให้แก่นิสิต อาจารย์สามารถถ่ายเอกสารไว้ โดยใช้งบประมาณจากฝ่ายวิชาการ
๒. ภายหลังการทวนสอบต้องเก็บงานทุกชิ้นของนิสิตเพียง ๑-๒ รายโดยสามารถถ่ายเอกสารจากฝ่ายวิชาการ
๓. การเก็บหลักฐานจะเก็บไว้ที่งานประกันคุณภาพเป็นระยะเวลา ๕ ปี
๕.ประสบการณ์การจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในรายวิชาชีพพยาบาล
๕.๑ รายวิชา ๑๐๖๒๐๑ การพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช ๑ (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.ภรภัทร เฮงอุดมทรัพย์) รายวิชา ๑๐๖๒๐๑ การพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช
๑ มีการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ๑๐% ของรายวิชาดังนี้ การจัดทำแผนการสอน การสอน และ การออกข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษ ผู้สอนใช้เทคนิคในการจัดการเรียนการสอน ดังนี้
- เริ่มต้นด้วยการเสริมสร้างความมั่นใจ ทั้งผู้สอนและผู้เรียนเกี่ยวกับการสอนภาษาอังกฤษ
- ผู้สอนมีการใช้สื่อต่างๆ การให้กำลังใจและส่งเสริมให้นิสิตกล้าพูด
- ใช้บรรยากาศที่ผ่อนคลายให้โอกาส ให้กำลังใจ - ใช้ภาษาง่ายๆ และไม่มากจนเกินไป
- จัดทำ Power point ภาษาอังกฤษ และเอกสารประกอบการสอนเป็นภาษาไทย
๕.๒ รายวิชา๑๐๒๒๐๑การพยาบาลมารดา-ทารกและการผดุงครรภ์ ๑ (อ.ดร.วรรณทนา ศุภสีมานนท์) รายวิชา ๑๐๒๒๐๑ การพยาบาลมารดา
-ทารกและการผดุงครรภ์ ๑มีการจัดการเรียนการสอน ภาษาอังกฤษ ๑๐% ของรายวิชาโดยเลือกสอนในหัวข้อที่ง่ายไม่ซับซ้อน ปฏิกิริยาของผู้เรียน คือ นิสิตไม่คุ้นเคยกับสำเนียงของผู้สอนและไม่เข้าใจในเนื้อหาที่สอนดังนั้นผู้สอนจึงมีการใช้เทคนิคต่าง ๆ การใช้ เพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลายในการสอนดังนี้
-อาจารย์ผู้สอนปรับตัวโดยการไม่คาดหวังผู้เรียนมากจนเกินไป
- การสอนโดยใช้ ๒ ภาษาควบคู่กันโดยใส่คำสำคัญ
- การใช้ภาพประกอบมากขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจ
- การเริ่มต้นด้วยคำศัพท์ - นิสิตสามารถสอบถามเป็นภาษาไทยได้ หลังการจัดการเรียนการสอนพบว่า
- นิสิตมีทัศนคติต่อภาษาอังกฤษดีขึ้น
- นิสิตเสนอให้อาจารย์พยาบาลเป็นผู้สอนรายวิชา ภาษาอังกฤษสำหรับพยาบาล
๕.๓ รายวิชา ๑๐๗๑๐๑ การสร้างเสริมสุขภาพแบบองค์รวม ( ผู้ช่วยศาสตร์สุวรรณี มหากายนันท์) รายวิชา ๑๐๗๑๐๑ การสร้างเสริมสุขภาพแบบองค์รวมมีการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ๑๐% ของรายวิชาโดยการมอบหมายงานให้นิสิตเป็นงานกลุ่มตั้งแต่ต้นเทอม สืบค้นบทความ งานวิจัยภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพในแต่ละบทเรียน มอบหมายให้นิสิตแปลและอภิปรายนำเสนอในชั้นเรียนเป็นภาษาอังกฤษ
ผลการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ
-การจัดกิจกรรมการเรียนในบางกลุ่มผู้เรียนค่อนข้างขาดทักษะทางด้านภาษา ผู้สอนต้องสรุปให้ค่อนข้างมาก บางกลุ่มจัดได้ค่อนข้างดีมีความสนุกสนาน และอภิปรายเป็นภาษาอังกฤษง่ายๆ
๕.๔ ข้อเสนอแนะจากที่ประชุม
๑) วัตถุประสงค์การจัดการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษเพื่อ เพิ่มศักยภาพของนิสิตในด้านการใช้ภาษาอังกฤษพื้นฐานในระดับ เน้นทักษะการอ่าน การฟัง
๒) ลักษณะและเวลาการจัดจัดการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษให้ครบร้อยละ ๑๐ ของจำนวนชั่วโมงของรายวิชา ทั้งนี้สามารถปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของแต่ละวิชา
๓) คณะฯ ควรมีการเตรียมความพร้อมของอาจารย์ผู้สอน ในด้านทักษะและความสามารถทางภาษาอังกฤษข รวมทั้งมีการทดสอบความสามารถของผู้สอนว่ามีทักษะหรือความสามารถเพียงพอที่จะสอนภาษาอังกฤษ เช่น BUU test การจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดซื้อ พจนานุกรมศัพท์ภาษาอาเซียน
๔) คณะฯ ควรมีการจัดกิจกรรมเสริมสร้างทักษะด้านภาษาอังกฤษสำหรับนิสิต เช่น จัดงานวั English Day การทำกิจกรรมร่วมกับชาว Scandinavian ให้ทุนในการทำกิจกรรมเพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษสำหรับนิสิต
๖. การประเมินผลการเรียนรู้ของรายวิชาตามแผนที่กระจายความรับผิดชอบต่อผลการเรียนรู้จากหลักสูตรสู่รายวิชา (Curriculum Mapping) ของรายวิชา ( ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ธีระรังสิกุล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุวรรณี มหากายนันท์ และอาจารย์ตระกูลวงศ์ ฦาชา)
๖.๑ การจัดการเรียนการสอนรายวิชา ๑๐๓๒๐๒ การพยาบาลผู้ใหญ่ ๒ของกลุ่มวิชาการพยาบาลผู้ใหญ่โดยการสร้างตารางการกระจายการจัดกิจกรรมการเรียนในแต่ละบทเรียนทุกบทโดยละเอียดและมีการประเมินกิจกรรมต่างๆ โดยแบ่งสัดส่วนการให้คะแนนกระจายตามการประเมินผลการเรียนรู้ของรายวิชาตามแผนที่กระจายความรับผิดชอบต่อผลการเรียนรู้จากหลักสูตรโดยในรายวิชาทฤษฎีจะมี ต้องมีการจัดการเรียนการสอนคลอบคลุมทั้ง ๕ Domains
๖.๒ การจัดการเรียนการสอนรายวิชา ๑๐๑๒๐๔ ปฏิบัติการพยาบาลชุมชน ๑ ของกลุ่มวิชาการพยาบาลชุมชนโดยมีการจัดทำแบบประเมินแต่ละกิจกรรมการเรียนรู้และแบ่งสัดส่วนคะแนนครอบคลุม ๖ Domainsทั้งนี้ กลุ่มวิชาการพยาบาลชุมชนได้พัฒนาระบบประเมินผลการเรียนรู้ Evaluation of Learning System ร่วมกับเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ของคณะพยาบาลศาสตร์ โดยอาจารย์สามารถเข้าสู่ระบบและกำหนดสัดส่วนคะแนนและประเมินผลการเรียนรู้ของนิสิตโดยระบบจะแสดงผลการประเมินผลการเรียนรู้ ครอบคลุมทุก Domain การเรียนรู้แบบเรียลไทม์ ซึ่งอยู่ในระหว่างการพัฒนาระบบ
๗. การประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาคทฤษฎี
๗.๑ การตัดเกรดในรายวิชาชีพ นิสิตต้องได้ต่ำกว่า C ถ้านิสิตได้เกรดต่ำกว่า C นิสิตต้องลงทะเบียนเรียนใหม่
๗.๒ การกำหนดน้ำหนักการประเมินในรายวิชาทฤษฎี การกำหนดน้ำหนักรายวิชาทฤษฎี ๑๐๐ % ควรแบ่งน้ำหนักการประเมินดังนี้
๑) น้ำหนักคะแนนความรู้ (Core Knowledge) (สอบกลางภาค สอบปลายภาค, สอบย่อย) ให้น้ำหนักคะแนนความรู้ไม่ต่ำกว่า ๖๐ หน่วยน้ำหนัก
๒) น้ำหนักคะแนนการมีส่วนร่วม (การมีกิจกรรมในห้อง งานที่มอบหมายฯ งานกลุ่ม งานเดี่ยว) ให้น้ำหนักคะแนนการมีส่วนร่วมไม่เกิน ๔๐ หน่วยน้ำหนัก
๓ )การกำหนดเกณฑ์สอบผ่านได้เกรด C ให้ ใช้ทั้งคะแนนสอบและคะแนนจากกิจกรรมรวมกันโดย
- ให้คะแนนความรู้ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด คือ ร้อยละ ๕๐ กรณีที่นิสิตสอบไม่ผ่านร้อยละ ๕๐ ของการสอบแต่ละครั้ง ให้มีการสอบซ่อมได้ ๑ ครั้งของการสอบครั้งนั้นๆ (เช่น กรณีสอบ ๒ ครั้ง สอบซ่อม midterm ได้ ๑ ครั้ง และสอบซ่อม final ได้ ๑ ครั้ง เป็นต้น)
- การตัดเกรดให้ใช้คะแนนรวมของคะแนนความรู้(คะแนนเดิม) และคะแนนการมีส่วนร่วม ต้องได้มากกว่าหรือเท่ากับร้อยละ ๖๐ และ ซึ่งอาจใช้ทั้งอิงเกณฑ์และอิงกลุ่ม
๔) รูปแบบของการซ่อม ขึ้นอยู่กับลักษณะและเนื้อหาของรายวิชา ที่แต่กลุ่มวิชาจะกำหนดตามความเหมาะสม อาจใช้ข้อสอบเดิม ข้อสอบคู่ขนาน ข้อสอบอัตนัย การมอบหมายงานที่ตรงกับเนื้อหาที่นิสิตสอบไม่ผ่าน หรือสอบปากเปล่าเฉพาะประเด็นที่สำคัญฯ
๘. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ เกี่ยวกับการเรียนการสอน
- กรณีที่นิสิตลาออก ฝ่ายวิชาการควรมีระบบการแจ้งให้ผู้ผู้สอนทราบด้วย
- ฝ่ายวิชาการและฝ่ายกิจการนิสิต ควรจัดให้มีกิจกรรมพบนิสิต ๑-๒ กิจกรรม/ภาคการศึกษา
- การเก็บเอกสารสำคัญของคณะฯ หรือข้อสอบ ควรใช้ระบบการ Scan เอกสารเก็บไว้โดย
- มอบหมายผู้รับผิดชอบโดยเฉพาะ สำหรับเอกสารสำคัญที่ต้องทำลายเสนอให้มีการกำจัดโดยเจ้าหน้าที่ห้องสำเนาข้อสอบโดยปิดห้องและห้ามนิสิตเข้า
๙.การเตรียมอาจารย์ใหม่ มีแนวปฏิบัติดังนี้ ๙.๑ รายวิชาภาคทฤษฎี และ การปฏิบัติในห้องปฏิบัติการ
คุณสมบัติ | ระยะเวลา | กิจกรรม |
๑. อาจารย์จบการศึกษาระดับปริญญาโท และมีประสบการณ์การสอนทางการพยาบาลมาแล้วอย่างน้อย ๑ ปี ในสถาบันการศึกษาที่สภาการพยาบาลรับรอง | ๑ ภาคการศึกษา | ๑. สังเกตการสอน ๒. ร่วมสอนโดยมีอาจารย์พี่เลี้ยงดูแล ๓. เมื่อผ่านการประเมินสามารถ สอนได้ในภาคการศึกษาต่อไป |
๒. อาจารย์จบการศึกษาระดับปริญญาโท และมีประสบการณ์การสอนสาขาอื่น ๆ มาแล้วอย่างน้อย ๑ ปี | ๖ เดือน | ๑. สังเกตการสอน ๒. ฝึกสอนในวิชาทางการพยาบาล โดยมีอาจารย์พี่เลี้ยงดูแลอย่างใกล้ชิด ๓. เมื่อผ่านการประเมินสามารถร่วมสอน/ สอนได้ในภาคการศึกษาถัดไป |
๓. อาจารย์จบการศึกษาระดับปริญญาโท และไม่มีประสบการณ์การสอนทางการพยาบาล | ๑ ปี | ๑. สังเกตการสอน ๑ ภาคการศึกษา ๒. ฝึกสอนและร่วมสอนในวิชาทางการพยาบาลโดยมีอาจารย์พี่เลี้ยงดูแล อย่างใกล้ชิดในภาคศึกษาถัดไป๓. เมื่อผ่านการประเมินสามารถร่วมสอน/ สอนได้ในภาคการศึกษาถัดไป |
๔. อาจารย์จบการศึกษาระดับปริญญาเอก และมีประสบการณ์การสอนทางการพยาบาลมาแล้วอย่างน้อย ๑ ปี ในสถาบันการศึกษาที่สภาการพยาบาลรับรอง | ๑ ภาคการศึกษา | ๑. สังเกตการสอน ๒. ร่วมสอนโดยมีอาจารย์พี่เลี้ยงดูแล ๓. เมื่อผ่านการประเมินสามารถ สอนได้ในภาคการศึกษาถัดไป |
๕. อาจารย์จบการศึกษาระดับปริญญาเอก และมีประสบการณ์การสอนสาขาอื่น ๆ มาแล้วอย่างน้อย ๑ ปี | ๑ ภาคการศึกษา | ๑. สังเกตการสอน ๒. ฝึกสอนในวิชาทางการพยาบาล โดยมีอาจารย์พี่เลี้ยงดูแลอย่างใกล้ชิด ๓. เมื่อผ่านการประเมินสามารถร่วมสอน/ สอนได้ในภาคการศึกษาถัดไป |
๖. อาจารย์จบการศึกษาระดับปริญญาเอก และไม่มีประสบการณ์การสอนทางการพยาบาล | 2 ภาคการศึกษา | ๑. สังเกตการสอนใน ๑ ภาคการศึกษา ๒. ฝึกสอนและร่วมสอนในวิชาทางการพยาบาลโดยมีอาจารย์พี่เลี้ยงดูแล อย่างใกล้ชิดในภาคการศึกษาถัดไป ๓. เมื่อผ่านการประเมินสามารถร่วมสอน/ สอนได้ในภาคการศึกษาถัดไป |
หมายเหตุ ทุกกรณีต้องมีการแต่งตั้งอาจารย์พี่เลี้ยงหลักจากคณบดี ตามช่วงระยะเวลาที่กำหนด |
คุณสมบัติ | ระยะเวลา | กิจกรรม |
๑. สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทหรือปริญญาเอกที่ไม่มีประสบการณ์ทางคลินิกในสาขาวิชาที่สอน หรือมีประสบการณ์ทางคลินิกน้อยกว่า ๑ ปี | ๑ ภาคการศึกษา | ๑. สังเกตการนิเทศ ๒. ร่วมนิเทศโดยมีอาจารย์พี่เลี้ยงดูแล ๓. เมื่อผ่านการประเมินสามารถนิเทศในภาคการศึกษาถัดไป |
๒. สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทหรือปริญญาเอกที่มีประสบการณ์ทางคลินิกในสาขาวิชาที่สอน มากกว่า ๑ ปี แต่ไม่มีประสบการณ์การสอนในคลินิก | ภายใน ๑ ภาคการศึกษา | ๑. สังเกตการนิเทศ อย่างน้อย ๑ กลุ่ม (ตามหน่วยกิตของรายวิชา) ๒. ร่วมนิเทศโดยมีอาจารย์พี่เลี้ยงดูแล ๓. เมื่อผ่านการประเมินสามารถนิเทศในกลุ่มถัดไป |
๓. สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทหรือปริญญาเอกที่มีประสบการณ์ทางคลินิกในสาขาวิชาที่สอนและประสบการณ์การสอนในคลินิก มากกว่า ๑ ปี | ภายใน ๑ ภาคการศึกษา | ๑. ร่วมนิเทศอย่างน้อย ๑ กลุ่ม โดยมีอาจารย์พี่เลี้ยงดูแล ๒. เมื่อผ่านการประเมินสามารถนิเทศในกลุ่มถัดไป |
หมายเหตุ ทุกกรณีต้องมีการแต่งตั้งอาจารย์พี่เลี้ยงหลักจากคณบดี ตามช่วงระยะเวลาที่กำหนด |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น